ทิศทางของแดดและลมกับงานภูมิทัศน์

ทิศทางของแดดและลมกับงานภูมิทัศน์

       
ที่มา : http://www.2e-building.com/article.php?cat=knowledge&id=172



ทิศทางแสงแดด

  • แสงแดดในช่วงฤดูร้อน


          โดยในช่วงฤดูร้อนซึ่งอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม ถึงพฤษภาคม เป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์โคจรใกล้โลกมากที่สุด เป็นช่วงที่อุณหภูมิเฉลี่ยค่อนข้างสูงในรอบปี โดยลักษณะการโคจรของดวงอาทิตย์มีการโคจรแนวแกนทิศตะวันออกมายังทิศตะวันตก ดังนั้นในช่วงเช้า ผนังบ้านทางทิศตะวันออกจะได้รับความร้อนจากแสงแดดในปริมาณมาก ต่อมาในช่วงสาย ดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวสูงขึ้น หลังคาบ้านจึงได้รับความร้อนจากแสงแดดมากขึ้น จนถึงช่วงบ่ายดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวมาทางทิศตะวันตก บ้านทางทิศตะวันตกจึงได้รับปริมาณความร้อนจากแสงแดดอย่างเต็มที่ในช่วงเย็น สำหรับผนังบ้านทางทิศเหนือ และทิศใต้ได้รับความร้อนจากแสงแดดระหว่างวันในปริมาณที่น้อย

  • แสงแดดในช่วงฤดูฝน


          ในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์โคจรอ้อมไปทางทิศเหนือมากที่สุด ดังนั้นในช่วงเช้า ผนังบ้านทางทิศตะวันออกจะได้รับความร้อนจากแสงแดดในปริมาณมาก รวมถึงผนังบ้านทางทิศเหนือจะได้รับความร้อนจากแสงแดดบางส่วนในเวลาเดียวกัน ต่อมาในช่วงสาย ดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวสูงขึ้น หลังคาบ้านจึงได้รับความร้อนจากแสงแดดมากขึ้น จนถึงช่วงบ่ายดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวมาทางทิศตะวันตก ผนังบ้านทางทิศตะวันตกจึงได้รับความร้อนจากแสงแดดเพิ่มมากขึ้น รวมถึงผนังบ้านทางทิศเหนือจะได้รับความร้อนจากแสงแดดบางส่วนในเวลาเดียวกัน และได้รับปริมาณความร้อนจากแสงแดดอย่างเต็มที่ในช่วงเย็น สำหรับผนังบ้านทางทิศใต้ได้รับความร้อนจากแสงแดดระหว่างวันในปริมาณที่น้อย

  • แสงแดดในช่วงฤดูหนาว


          ในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคม เป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์โคจรอ้อมไปทางทิศใต้มากที่สุด ดังนั้นในช่วงเช้า ผนังบ้านทางทิศตะวันออก และทางทิศใต้จะได้รับความร้อนจากแสงแดดในปริมาณมากในเวลาเดียวกัน ต่อมาในช่วงสาย ดวงอาทิตย์เคลื่อนตัวสูงขึ้นหลังคาบ้านจึงได้รับความร้อนจากแสงแดดมากขึ้น ในขณะที่ผนังทางทิศใต้ยังคงได้รับความร้อนจากแสงแดดอยู่ จนถึงช่วงบ่ายอาทิตย์เคลื่อนตัวมาทางทิศตะวันตกผนังบ้านทางทิศตะวันตกจึงได้รับความร้อนจากแสงแดดเพิ่มมากขึ้น รวมถึงผนังบ้านทางทิศใต้ยังคงได้รับความร้อนจากแสงแดดอยู่ตลอดเวลา และได้รับปริมาณความร้อนจากแสงแดดอย่างเต็มที่ในช่วงเย็น สำหรับผนังบ้านทางทิศเหนือได้รับความร้อนจากแสงแดดระหว่างวันในปริมาณที่น้อย


ทิศทางลม
ประเทศไทยอยู่ภายใต้อิทธิพลของมรสุมสองชนิดคือ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ

  • มรสุมตะวันตกเฉียงใต้
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดปกคลุมประเทศไทยระหว่างกลางเดีอนพฤษภาคมถึง กลางเดือนตุลาคม โดยมีแหล่งกำเนิดจากบริเวณความกดอากาศสูงในซีกโลกใต้ บริเวณมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งพัดออกจากศูนย์กลางเป็นลมตะวันออกเฉียงใต้ และเปลี่ยนเป็น ลมตะวันตกเฉียงใต้เมื่อพัดข้ามเส้นศูนย์สูตร มรสุมนี้จะนำมวลอากาศชื้นจากมหาสมุทรอินเดีย มาสู่ประเทศไทย ทำให้มีเมฆมากและฝนตกชุกทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามบริเวณชายฝั่งทะเล และเทือกเขาด้านรับลมจะมีฝนมากกว่าบริเวณอื่น
  • มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
หลังจากหมดอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้แล้ว ประมาณกลางเดือนตุลาคมจะมีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยจนถึง กลางเดือนกุมภาพันธ์ มรสุมนี้มีแหล่งกำเนิดจากบริเวณความกดอากาศสูงในซีกโลกเหนือแถบประเทศ มองโกเลียและจีน จึงพัดพาเอามวลอากาศเย็นและแห้งจากแหล่งกำเนิดเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ทำให้ท้องฟ้าโปร่ง อากาศหนาวเย็นและแห้งแล้งทั่วไป โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคใต้จะมีฝนชุกโดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออก เนื่องจากมรสุมนี้นำความชุ่มชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุม





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น